Pickle คืออะไร
Pickle คือ Influencer Platform ที่เกิดมาเพื่อสร้าง ผลประโยชน์สูงสุดร่วมกันระหว่าง Influencer และ Brand เพราะเราเชื่อว่า Brand จะประสบความสำเร็จ หากได้ร่วมงานกับ Influencer ที่สนใจในตัวแบรนด์จริงๆ และมีผู้ติดตามที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ทำให้สามารถสร้างคอนเทนต์ออกมาตอบโจทย์และเป็นธรรมชาติ จึงมั่นใจได้ว่าจะสามารถ Influence ผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง เช่นเดียวกันกับ Influencer หากได้ร่วมงานกับแบรนด์ที่ตรงกับความชอบของตนเอง ก็จะสามารถสื่อสารออกมาแบบเป็นตัวเองโดยไม่ต้องพยายาม ซึ่งคอนเทนต์ที่ออกมาก็จะดูเป็นธรรมชาติ สะท้อนภาพลักษณ์ออกมาได้ชัดเจน และดูน่าเชื่อถือมากขึ้นในสายตาผู้ติดตาม
Influencer ที่รับงานผ่านทางระบบ Pickle จะได้อะไร
การที่คุณรับงานผ่านระบบเรา นอกจากคุณจะได้เลือกงานหรือแบรนด์ที่คุณชื่นชอบและอยากรีวิวไปทำแล้ว คุณยังสามารถเป็นตัวของตัวเองได้มากที่สุดอีกด้วย! เพราะเราเชื่อมั่นว่างานที่สรรค์สร้างขึ้นมาโดยเหล่า Influencer เอง จะเป็นงานที่สร้างสรรค์ที่สุด เราจึงมอบความอิสระทางความคิดให้แก่คุณ ภายใต้รายละเอียดของงานที่ชัดเจนและเข้าใจง่าย เพื่อให้การรีวิวงานเป็นเรื่องที่คุณสามารถทำได้ง่ายๆในชีวิตประจำวัน
ในการรีวิวกับ Pickle ต้องเสียค่าใช้จ่ายมั้ย
อินฟลูเอนเซอร์จะไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆในการรับงานผ่านระบบ สิ่งที่คุณต้องเสียเพียงอย่างเดียวคือ พื้นที่ในการโพสต์ภาพหรือวีดีโอสำหรับการรีวิว ผ่านทางสื่อโซเชี่ยลมีเดียของคุณ เพื่อแลกกับสินค้าหรือบริการ และ/หรือ ค่าตอบแทน ที่คุณจะได้รับจากทางแบรนด์เท่านั้น
ถ้าอยากร่วมงานกับ Pickle จะต้องทำอย่างไร?
ในการสมัครเป็น Influencer บนระบบ Pickle มีขั้นตอนง่ายๆ 3 ข้อดังนี้ 1. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Pickle ผ่านระบบ IOS หรือ Android 2. สามารถเลือกล็อกอินผ่าน Facebook, Google และ Apple เพื่อเชื่อมต่อไปยัง Instagram หรือ Tiktok ของคุณ 3. เริ่มค้นหาแบรนด์หรือสินค้าที่คุณสนใจรีวิว และส่งคำขอเข้าร่วมแคมเปญเลย
Influencer ต้องเตรียมตัวอย่างไร ก่อนเข้าใช้งานแอพพลิเคชั่น Pickle
ในการเชื่อมต่อผ่านระบบ คุณจำเป็นจะต้องมี สถานะของ Instagram เป็น Business หรือ Creator Account และเชื่อมบัญชี Instagram ของคุณกับ Facebook Page ก่อน จึงจะสามารถใช้งานแพลตฟอร์มได้
Facebook Permission ขอข้อมูลอะไรบ้าง
ในการเข้าใช้งานแอป Pickle นั้น Influencer จำเป็นจะต้องอนุญาตให้ทาง Pickle เข้าถึงข้อมูลของคุณทั้งหมด ซึ่งเป็นข้อมูลโดยทั่วไปอยู่แล้ว จึงขอบอกเลยว่า ไม่ต้องกังวลนะ ข้อมูลที่ทาง Facebook ขอไปนั้น มีทั้งหมด 4 ข้อดังนี้ 1. การขอเข้าถึง อีเมล Facebook ของคุณ 2. การขอเข้าถึงรายชื่อของ Facebook Page ที่คุณจัดการอยู่ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะถูกนำมาใช้ เพื่อให้ Influencer เลือกว่า เพจไหนคือเพจที่ตัวเองได้ใช้ในการผูกกับบัญชี Instagram (เพื่อแบรนด์ต้องการยิงแอดโฆษณาในอนาคต) 3. การขอเข้าถึงข้อมูลของและประวัติของบัญชี Instagram ของคุณ ที่ได้ผูกไว้กับ Facebook Page ดังกล่าว ซึ่งจะประกอบไปด้วยข้อมูล Profile, Instagram Posts และข้อมูล Insights เบื้องต้นของบัญชี 4. การขอเข้าถึงข้อมูล Instagram story ของ Influencer ที่ได้ส่งผ่านเข้ามาในระบบ Pickle แต่ไม่ต้องกังวลว่าเราจะได้ข้อมูลทั้งหมด เพราะว่าทาง Facebook ได้ดำเนินการอนุญาตให้เราสามารถได้ข้อมูลแค่ story ที่คุณส่งงานเข้ามาเท่านั้น
สามารถรีวิวผ่านช่องทางใดได้บ้าง
ปัจจุบัน ช่องทางสำหรับการรีวิวงานบน Pickle มี 2 ช่องทาง คือ Instagram และ Tiktok
ส่งงานผ่านระบบ Pickle ทำอย่างไร
Pickle มีระบบในการเชื่อมต่อ Instagram และ Tiktok ของอินฟลูเอนเซอร์ ทำให้สามารถส่งงานผ่านระบบ Pickle ได้เลย โดยไม่จำเป็นจะต้องแคปรูปหรือคัดลอกลิงก์ผลงานส่งให้แบรนด์ (ยกเว้น Reels ที่ต้องคัดลอกลิงก์มาวางในหน้าส่งงาน) และในระหว่างการเข้าร่วมแคมเปญกับทางแบรนด์นั้น Influencer จะต้อง ไม่ลบรูปออกจาก Instagram ของตนเอง หรือ กดปุ่ม Unlink Instagram บนแอป Pickle เพราะจะทำให้ข้อมูลส่งไปไม่ถึงฝั่งแบรนด์ และอาจจะทำให้งานดังกล่าวเกิดความผิดพลาดได้
มีแบรนด์หรือสินค้าอะไรบ้างที่จะเข้าร่วมกับทาง Pickle
แบรนด์หรือสินค้าในระบบ ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าประเภทไลฟ์สไตล์ โดยเราจะเน้นไปที่สินค้าจำพวก Fashion, Food, Beauty and Travel-based ที่เป็นที่นิยม ทำให้อินฟลูเอนเซอร์สามารถรีวิวสินค้าหรือบริการต่างๆได้อย่างเป็นธรรมชาติ
อินฟลูเอนเซอร์สามารถรับงานได้สูงสุดกี่งาน
Pickle ให้คุณสามารถขอเข้าร่วมแคมเปญได้ไม่จำกัด ! แต่เราไม่แนะนำให้คุณรีวิวงานประเภทเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกัน เพราะอาจจะเสี่ยงต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ และอินฟลูเอนเซอร์เอง
Pickle คืออะไร
Pickle คือ Influencer Platform ที่เกิดมาเพื่อสร้างผลประโยชน์สูงสุดร่วมกันระหว่าง Influencer และ Brand เพราะเราเชื่อว่า Brand จะประสบความสำเร็จ หากได้ร่วมงานกับ Influencer ที่สนใจในตัวแบรนด์จริงๆ และมีผู้ติดตามที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ทำให้สามารถสร้างคอนเทนต์ออกมาตอบโจทย์และเป็นธรรมชาติ จึงมั่นใจได้ว่าจะสามารถ Influence ผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง เช่นเดียวกันกับ Influencer หากได้ร่วมงานกับแบรนด์ที่ตรงกับความชอบของตนเอง ก็จะสามารถสื่อสารออกมาแบบอย่างจริงใจ และเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งคอนเทนต์ที่ออกมาก็จะดูเป็นธรรมชาติ สะท้อนภาพลักษณ์ออกมาได้ชัดเจน และดูน่าเชื่อถือมากขึ้นในสายตาผู้ติดตาม
ทำไมแบรนด์จึงควรมาเปิดแคมเปญกับ Pickle
Pickle ได้คัดสรรและรวบรวมอินฟลูเอนเซอร์ ที่มีคุณภาพมาไว้ให้คุณแล้ว ดังนั้น คุณจะสามารถมั่นใจได้ว่า อินฟลูเอนเซอร์ที่ request เข้ามาในแคมเปญนั้น ชื่นชอบในผลิตภัณฑ์หรือสินค้าของคุณจริงๆ และด้วยความตั้งใจ และเอกลักษณ์เฉพาะตัวของอินฟลูเอนเซอร์ จะทำให้สามารถโฆษณาสินค้าออกมาอย่างจริงใจและสร้างสรรค์ รวมไปถึงการที่ Pickle สามารถเก็บรวมรวม วิเคราะห์ผลลัพธ์ของแคมเปญของคุณไว้อย่างเข้าใจง่าย ซึ่งคุณสามารถติดตามและนำผลลัพธ์ของการทำแคมเปญดังกล่าวไปใช้ต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ถ้าต้องการสมัครจะต้องทำยังไงบ้าง
ในการสมัครเป็น Marketer บนระบบ Pickle มีขั้นตอนง่ายๆ 3 ข้อ ดังนี้
1. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Pickle ผ่านระบบ IOS หรือ Android
2. สร้าง Account พร้อมกรอกรายละเอียดเกี่ยวกับแบรนด์ของคุณ
3. เมื่อบัญชีของคุณได้รับการอนุมัติแล้ว ก็สามารถเปิดแคมเปญกับเราได้เลย
ในการเปิดแคมเปญบนระบบ จะต้องเสียค่า Commission หรือไม่
ปัจจุบัน Pickle ยังไม่มีนโยบายในการเรียกเก็บเงินค่าดำเนินการหรือค่าคอมมิชชั่นกับทางแบรนด์ เรามาเพื่อเชื่อมต่อแบรนด์กับอินฟลูเอนเซอร์ ให้สามารถพบกันและทำงานร่วมกันได้ง่ายขึ้น
สามารถเปิดแคมเปญผ่านคอมพิวเตอร์ได้หรือไม่
ในตอนนี้ การเปิดแคมเปญสามารถเปิดได้ผ่านทางแอปพลิเคชั่นบนมือถือหรือแท็ปเล็ตเท่านั้น ในอนาคตอาจจะเปิดให้สมัครผ่านคอมได้ ต้องคอยติดตามกันนะ
สามารถให้คนอื่นในทีมเข้ามาจัดการ Account แทนได้หรือไม่
ได้ แต่จำเป็นจะต้องเป็นคนที่ Marketer อนุญาตให้สามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆภายใน Account ได้เท่านั้น
อีเมลที่ควรใช้ในการสมัคร ควรเป็นอีเมลอะไร
อีเมลที่ใช้ในการสมัครใช้งานแอพพลิเคชั่นควรเป็นอีเมลกลาง เพื่อให้คนในทีมของคุณสามารถใช้ร่วมกันได้
เราสามารถเข้ามาเปิดแคมเปญไว้ก่อน โดยที่ยังไม่ต้อง Publish ได้หรือไม่
ได้ คุณสามารถเข้ามาสร้างแคมเปญและกำหนดวันที่ต้องการ Publish บนระบบล่วงหน้าได้เลย
ในการสร้างแคมเปญ ถ้าบางรายละเอียดยังไม่ทราบ สามารถกรอกเพิ่มภายหลังได้หรือไม่
สามารถทำได้ แคมเปญที่ยังกรอกไม่ครบหรือยังไม่ได้ Publish จะถูกเซฟไว้เป็น Draft หรือแบบร่างบนระบบ เพื่อที่คุณจะสามารถเข้ามาตรวจสอบหรือแก้ไขรายละเอียดเพิ่มเติมได้ก่อนโพสต์จริง โดยเข้าไปที่ หน้า Home >> ยังไม่เผยแพร่
เมื่อตอบรับคำขอเข้าร่วมงานกับอินฟลูเอนเซอร์แล้ว สามารถยกเลิกได้ภายหลังหรือไม่
คุณสามารถยกเลิกการร่วมงานกับ Influencer ได้ จนถึงก่อนวันที่ Influencer จะได้รับสินค้าหรือบริการจากทางแบรนด์ของคุณ หากต้องการศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูได้ที่ ข้อกำหนดในการใช้งานของทางบริษัทได้เลย
หากอินฟลูเอนเซอร์ได้รับสินค้าหรือบริการแล้ว แต่ไม่ส่งงานภายในระยะเวลาที่กำหนด แบรนด์สามารถทำอย่างไรได้บ้าง
หากอินฟลูเอนเซอร์ไม่ส่งงานภายในระยะเวลาที่กำหนด แบรนด์สามารถเรียกเก็บเงินจากอินฟลูเอนเซอร์คนดังกล่าว เป็นจำนวนเท่ากับมูลค่าของสินค้าหรือบริการที่ทางแบรนด์ได้กำหนดเอาไว้ หรือตามจำนวนที่ทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกัน
สามารถขอเช็คผลงานของอินฟลูเอ็นเซอร์ ก่อนลงโปรโมทจริงได้หรือไม่
แบรนด์สามารถเลือกให้อินฟลูเอนเซอร์ส่งผลงานให้ตรวจก่อนโพสต์ได้ในขั้นตอนสร้างแคมเปญ ( หน้าระยะเวลาแคมเปญ กดเลือก Check Box "Influencer ต้องส่งรูปให้ตรวจก่อนโพสต์" ) หรือสามารถพูดคุยกับ Influencer เพื่อขอให้ Influencer ส่งงานมาให้ดูก่อนได้ในหน้า Chat
แบรนด์สามารถเสนองานให้กับอินฟลูเอนเซอร์ที่สนใจได้หรือไม่
สามารถทำได้ 2 วิธี คือ
ข้อมูลในหน้า Campaign Performance เริ่มเก็บข้อมูลตั้งแต่ตอนไหน
ข้อมูล Insign ทั้งหมดจะถูกเก็บทันทีที่อินฟลูเอนเซอร์ ส่งงานเข้ามาในระบบ Pickle แต่ถ้าอินฟลูเอ็นเซอร์อัพโหลดงานผ่าน Social Media อย่างเดียว แต่ยังไม่ส่งงานผ่านแอพ Pickle จะยังไม่ถูกนำมาแสดงผล
ทำอย่างไรให้ข้อมูล Campaign Performance ที่แสดงผลออกมามีประสิทธิภาพมากที่สุด
แบรนด์จะต้องให้ Influencer รีบเข้ามากดส่งผลงานผ่านระบบ Pickle ให้เร็วที่สุด หลังจากที่ Influencer ได้โพสต์งานดังกล่าวผ่านแพลตฟอร์ม Social Media ของตนเองเรียบร้อยแล้ว
ถ้าอินฟลูเอนเซอร์ส่งงานแล้วลบรูปออกไป ข้อมูล Insight จะหายไปหรือไม่
ไม่หาย เพราะถือว่าข้อมูลจากรูปที่อินฟลูเอนเซอร์ ได้โพสลงไปนั้น เป็นข้อมูลจริง และมีคนเห็นจริง แต่ข้อมูลจะหยุดเคลื่อนไหวทันทีที่ลบรูปออก และจะเริ่มคำนวณต่อเมื่อมีการส่งงานเข้ามาในระบบ Pickle อีกครั้ง
จำเป็นต้องให้ทั้งผลิตภัณฑ์/บริการ และค่าตอบแทน แก่อินฟลูเอนเซอร์หรือไม่
แบรนด์สามารถเลือกให้ผลิตภัณฑ์/บริการ หรือให้ค่าตอบแทน หรือจะให้ทั้งสองอย่างได้เลย ขึ้นอยู่กับแนวทางของทางแบรนด์เอง
แต่ Pickle แนะนำว่า แคมเปญที่ให้ค่าตอบแทน จะได้รับความสนใจจากอินฟลูเอนเซอร์ได้มากกว่า
แบรนด์สามารถนำรูปของอินฟลูเอนเซอร์ไปใช้ได้หรือไม่
สามารถนำไปใช้ได้ ระบบจะมีการแจ้งอินฟลูเอนเซอร์ ก่อนการรับงานทุกครั้ง ว่าแบรนด์สามารถนำรูปไปใช้ในการทำการตลาดและการโฆษณาของแบรนด์ต่อได้
แต่นอกจากนี้ เพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่าย แบรนด์ควรแจ้งกับทางอินฟลูเอนเซอร์อีกครั้งก่อนเริ่มงาน